รายละเอียดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
  60754 เล่ม 1-2567
  วิธีทดสอบก๊าซที่เกิดขึ้นในระหว่างการไหม้ไฟของวัสดุจากสายไฟฟ้า เล่ม 1 การหาปริมาณก๊าซกรดฮาโลเจน
  TEST ON GASES EVOLVED DURING COMBUSTION OF MATERIALS FROM CABLES - PART 1: DETERMINATION OF THE HALOGEN ACID GAS CONTENT
  มอก. มาตรฐานทั่วไป
  21 พฤศจิกายน 2568

ประกาศและงานทั่วไป
142
พิเศษ 254 ง หน้า 10
24 กรกฏาคม 2568
28 กุมภาพันธ์ 2568
ยกเลิก มอก.2757 เล่ม 1-2559 และประกาศ มอก.60754 เล่ม 1-2567 ขึ้นใหม่ ให้มีผลเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (24 ก.ค. 68) **(มอก.60754 เล่ม 1-2567 มีผลใช้งานตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 68 เป็นต้นไป)

- ระบุเครื่องทดสอบและวิธีดำเนินการในการหาปริมาณก๊าซกรดฮาโลเจนนอกเหนือจากกรดไฮโดรฟลูออริก ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเผาไหม้ของสารประกอบที่อยู่บนพื้นฐานของพอลิเมอร์ฮาโลเจนและสารประกอบที่มีสารเติมแต่งฮาโลเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างสายไฟฟ้าหรือเคเบิลเส้นใยนำแสง หมายเหตุ 1 วิธีทดสอบนี้ไม่สามารถหากรดไฮโดรฟลูออริกได้ วิธีการที่เหมาะสมอาจ พบได้ใน IEC 60684-2 หมายเหตุ 2 วิธีทดสอบนี้อาจใช้ในการทดสอบวัสดุที่จะใช้ในการผลิตสายไฟฟ้า แต่ไม่ควรรับรองสมรรถนะของสายไฟฟ้าบนพื้นฐานของการทดสอบดังกล่าว หมายเหตุ 3 มาตรฐานสายไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องควรระบุส่วนประกอบของสายไฟฟ้า ที่ควรจะทดสอบ หมายเหตุ 4 สำหรับวัตถุประสงค์ของมาตรฐานฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนี้ คำว่า “สายไฟฟ้า” ครอบคลุมสายไฟฟ้าตัวนำโลหะหุ้มฉนวนทั้งหมดที่ใช้สำหรับการส่งจ่ายพลังงานหรือสัญญาณ - วิธีการที่ระบุไว้ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนี้ มีเจตนาให้ใช้สำหรับการทดสอบแต่ละส่วนประกอบของโครงสร้างสายไฟฟ้า การใช้วิธีการนี้ จะช่วยให้สามารถทวนสอบคุณลักษณะที่ต้องการที่ระบุไว้ในข้อกำหนดคุณลักษณะของสายไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับส่วนประกอบแต่ละส่วน ของโครงสร้างสายไฟฟ้าได้ หมายเหตุ 5 ตามข้อตกลงระหว่างผู้ทำกับผู้ซื้อ วิธีการที่กำหนดในมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมนี้ อาจใช้ในการทดสอบวัสดุที่รวมกันอยู่เป็นตัวแทนของโครงสร้างสายไฟฟ้า แต่ไม่ควรรับรองสมรรถนะของสายไฟฟ้า ตามมาตรฐานนี้บนพื้นฐานของการทดสอบดังกล่าว ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการดังกล่าวให้ไว้ใน Annex A - เพื่อเหตุผลด้านความแม่นยำ ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้รายงานค่าของกรดฮาโลเจนที่เกิดขี้นน้อยกว่า 5 mg/g ของตัวอย่างที่นำมา


Tisi-IT P3.02 Version 2023
พัฒนาระบบโดย ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร